- ส่งเสมหะเพาะเชื้อวัณโรคเพื่อยืนยันการวินิจฉัยวัณโรคและวินิจฉัยแยกโรครวมถึงทดสอบความไวของเชื้อวัณโรคต่อยาก่อนเริ่มการรักษาทุกราย
- เริ่มยาต้านไวรัสในผู้ปวยทุกรายที่กำลังรับการรักษาวัณโรค ระยะเวลาเริ่มยาต้านไวรัสที่เหมาะสมพิจารณาจากปริมาณเม็ดเลือดขาว CD4 และความรุนแรงของโรค
1. ถ้า CD4 ตั้งแต่ 50 cells/mm3 ลงมาเริ่มภายใน 2 สัปดาห์หลังเริ่มยาวัณโรค
2. ถ้า CD4 มากกว่า 50 cells/mm3 และอาการวัณโรครุนแรงเริ่มภายใน 2 สัปดาห์ ถ้าอาการวัณโรคไม่รุนแรงเริ่มระหว่าง 2-8 สัปดาห์หลังเริ่มยาวัณโรค
- กรณที่มี rifampicin ในสูตรยารักษาวณโรคให้เริ่มสูตรยาที่มี EFV เป็นส่วนประกอบ ถ้าไม่สามารถใช้ EFV ได้ให้พิจารณา NVP หรือ RAL ตามลำดับ หากจำเป็นตองใช้ยาที่มี protease inhibitor ให้ปรับสูตรยารักษาวัณโรคเป็นสูตรที่ไม่มียา rifampicin
-การให้ primary prophylaxis สาหรับป้องกัน cryptococcosis, penicilliosis, histoplasmosis และการติดเชื้อ Mycobacterium avium complex (MAC)
ในผู้ป่วยติดเชื้อเอชไอวีที่มีข้อบ่งชี้นั้น อาจพิจารณาให้เฉพาะในรายที่ไมสามารถเริ่มการรักษาด้วยยาต้านไวรสได้เร็ว โดยไม่เป็นต้องให้ทุกราย
- มีการปรับปรังข้อแนะนำในการเริ่มยาต้านไวรัสในกรณีที่มีโรคติดเชื้อฉวยโอกาสร่วมด้วย
- มีการปรับปรังเกณฑ์การหยุดยาป้องกันโรคติดเชื้อฉวยโอกาส
Ref: แนวทางการตรวจรักษาและป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีประเทศไทย ปี 2557
เพื่อการเรียนรู้ medicine และสุขภาพที่ดีของประชาชน (community hospital) * เดิมคือ Phimaimedicine.blogspot.com * ตอนนี้มาปฏิบัติงานอยู่ที่ รพ. ขนอม นครศรีธรรมราชครับ
วันอาทิตย์ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2557
2,968 สรุปแนวทางการป้องกันรักษาโรคติดเชื้อฉวยโอกาสและการเริ่มยาวัณโรคในผู้ป่วยเอชไอวี
ป้ายกำกับ:
Infectious disease
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น