มีคำแนะนำในการให้ยาต้านเกล็ดเลือด 2 ชนิดร่วมกันโดยการให้ aspirin ร่วมกับ clopidogrel เป็นเวลา 1 ปี ภายหลังการเกิดาวะกลุ่มโรคหลอดเลือดหัวใจเฉียบพลัน (acute coronary syndrome, ACS) เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงของการเกิดเหตุการณ์ที่เกี่ยวกับหัวใจ เลือดออกในระบบทางเดินอาหารเป็นสิ่งที่อันตรายหลัก และแม้ว่าอุบัติการณ์ของการมีเลือดออกอยู่ในระดับต่ำจะส่งผลเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญต่อความเจ็บป่วยและการเสียชีวิต และยา proton pump inhibitors (PPIs) มักจะถูกเลือกให้ผู้ป่วยเพื่อที่จะลดความเสี่ยงนี้ ซึ่ง PPIs ออกฤทธิ์โดยการลดการหลั่งของกรดในกระเพาะอาหาร, ทำให้กรดในกระเพาะอาหารเป็นกลางมากขึ้น, เพิ่มการก่อตัวเป็นก้อนและลดการสลายตัวของลิ่มเลือด
จากการศึกษาผู้ป่วยจำนวน 177 คน พบว่ามี 10 คนที่มีเลือดออกในทางเดินอาหารส่วนต้น โดย 6 คน ได้รับ PPI และ 4 คนเป็นกลุ่มควบคุม (odds ratio 1.45, 95% CI 0.39-5.32, p=0.58) จากการส่องกล้องทางเดินอาหารในผู้ป่วย 6 ราย (6.6%) ดังกล่าว พบว่ามีกระเพาะอาหารอักเสบ 4 รายเลือดออกจาก, มีเลือดออกจาก angiodysplasia 1 ราย และเลือดออกจากการที่มีหลอดอาหารอักเสบ 1 ราย ขณะที่ในกลุ่มควบคุม 4 คน (4.6%) พบมีกระเพาะอาหารอักเสบ 2 ราย, มีแผลในกระเพาะอาหาร 1 ราย และ Mallory Weiss tear 1 ราย ซึ่งไม่มีผู้ป่วยรายใดที่เคยมีเลือดออกในทางเดินอาหารมาก่อน สรุปคือการให้ยา PPI เพื่อป้องกันในผู้ป่วยที่ได้รับยาต้านเกล็ดเลือด 2 ชนิดร่วมกันภายหลังการเกิด ACS ไม่ได้ประโยชน์อย่างมีนัยสำคัญในการลดปัจจัยที่นำไปสู่การมีเลือดออกในทางเดินอาหารส่วนต้น แต่อย่างไรก็ตามการศึกษาในกลุ่มผู้ป่วยจำนวนมากมีความจำเป็นเพื่อที่จะยืนยันผลการศึกษานี้
Ref: http://www.medscape.com/viewarticle/819788
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น