American Family Physician
March 1 2014 Vol. 89 Number 5
เครื่องมือสำหรับตรวจสมรรถภาพปอดในสถานบริการหรืออาจเรียกว่า spirometry เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสำหรับแพทย์ปฐมภูมิในการวินิจฉัยและดูแลรักษาปัญหาของระบบทางเดินหายใจ ความผิดปกติแบบอุดกั้นจะแสดงโดยการมีปริมาตรของอากาศที่ถูกขับออกอย่างรวดเร็วในหนึ่งนาที/ปริมาตรของอากาศที่เป่าออกอย่างเร็วแรงจนหมด [forced expiratory volume in one second/forced vital capacity (FEV1/FVC) ratio] ที่ต่ำกว่า 70% ของ 5 เปอร์เซ็นไทล์ โดยอ้างอิงข้อมูลจาก Third National Health and Nutrition Examination Survey (NHANES III) ในผู้ใหญ่ และน้อยกว่า 85% ในผู้ที่อายุ 5-18 ปี
ถ้าพบความผิดปกติแบบอุดกั้น แพทย์ควรตรวจสอบว่าโรคจะสามารถย้อนกลับคืนได้หรือไม่ โดยดูที่การเพิ่มขึ้นของ FEV1 หรือ FVC หลังการรักษาด้วยยาขยายหลอดลม (คือเพิ่มขึ้นกว่า 12% ในผู้ป่วยอายุ 5-18 ปีหรือมากกว่า 12% และมากกว่า 200 มิลลิลิตรในผู้ใหญ่)
ซึ่งโรคหอบหืดมักจะย้อนกคืนลับในขณะที่รคปอดอุดกั้นเรื้อรังไม่ย้อนคืนกลับ ความผิดปกติแบบจำกัดการขยายตัวของปอด (restrictive pattern) จะแสดงโดย FVC ต่ำกว่า 5 เปอร์เซ็นไทล์โดยอ้างอิงข้อมูลจาก NHANES III ในผู้ใหญ่ หรือน้อยกว่า 80% ในผู้ป่วยอายุ 5-18 ปี
หากพบมีความผิดปกติแบบจำกัดการขยายตัวของปอด การตรวจสมรรถภาพปอดอย่างเต็มรูปแบบด้วยการตรวจความจุการซึมซ่านของคารบอนมอน็อกไซด์ (diffusing capacity of the lung for carbon monoxide testing) เพื่อยืนยันการวินิจฉัยและการวินิจฉัยแยกโรค
ถ้าทั้ง FEV1/FVC ratio และ FVC ต่ำ ผู้ป่วยจะมีภาวะร่วม (mixed defect) ความรุนแรงของความผิดปกติทราบได้โดย FEV1 (percentage of predicted) ถ้าผลการตรวจปกติแต่แพทย์ยังสงสัย exercise หรือ allergen induced asthma การทดสอบความไวของทางเดินหายใจหรือหลอดลม (bronchoprovocation) (เช่น methacholine challenge, mannitol inhalation challenge, exercise testing) ควรได้รับการพิจารณาทำ
Ref: http://www.aafp.org/afp/2014/0301/p359.html
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น