ปฏิกิริยระหว่างยากลุ่ม protease inhibitor และยากลุ่ม ergot derivative ยากลุ่ม ergot derivative เช่น ergotamine ซึ่งเป็นยาที่รักษาปวดศีรษะไมเกรน หรือ Methergin® (methylergometrine maleate) จะถูกเมแทบอลิซึมที่ตับผ่าน CYP 450 ดั้งนั้นยาที่มีผลเป็น CYP inhibitor ก็จะไปเพิ่มระดับยากลุ่มนี้อย่างรวดเร็วเช่น clarithromycin, ketoconazole และยากลุ่ม PIs โดยเฉพาะยาที่มี ritonavir ด้วย ซึ่งที่ใช้กันมากคือ lopinavir/r ระดับยา ergot derivative ที่สูงขึ้นทำให้เกิดเส้นเลือดส่วนปลายหดตัว (peripheral vascular vasoconstriction) อย่างรุนแรงเช่น ที่แขนหรือขา ทำให้เกิดการขาดเลือด จนทำให้เกิดเนื้อตายได้ หรือถ้าเป็นที่สมองก็ทำให้ชัก ไม่รู้สึกตัวหรืออัมพาตได้ ผู้ติดเชื้ออาจจะมีอาการตั้งแต่เริ่มแรกที่รับประทานยาเช่น คลื่นไส้/อาเจียนรุนแรง เพลีย หน้ามืด ความดันโลหิตลดลง ชาหรือปวดที่แขนขา (โดยเฉพาะขา) หรืออาจจะมีเขียว (cyanosis) ดังนั้นผู้ติดเชื้อที่รับประทานยากลุ่ม PIs ห้ามรับประทานยากลุ่ม ergotamine โดยเด็ดขาด แม้เพียงเม็ดเดียวก็เกิดปัญหาได้ การรักษาในรายที่เป็นรุนแรงต้องให้ยาขยายหลอดเลือด (vasodilator drug)
จึงขอความร่วมมือให้ แพทย์ เภสัชกร พร้อมแจ้งเตือนผู้ใช้ยาต้านไวรัสกลุ่ม PIs ให้ระมัดระวังการใช้ยา โดยแจ้งให้ผู้ใช้ยาต้นไวรัสกลุ่มนี้ระมัดระวังการซื้อยาอื่นกินรวม หริอแพทย์ต้องสั่งยาด้วยควาระมัดระวัง ควรมีข้อความคำเตือน ปรับปรุงฉลากยา หรือเอกสารห้ามใช้ยาบางชนิดร่วม
โดยมีกรณีตัวอย่างในอ้างอิงอีก 2 ตัวอย่าง สามารถอ่านเพิ่มเติมได้จากลิ้งค์ด้านล่างครับ
อ้างอิง http://thaiaidssociety.org/images/PDF/pi_ergot.pdf
เพื่อการเรียนรู้ medicine และสุขภาพที่ดีของประชาชน (community hospital) * เดิมคือ Phimaimedicine.blogspot.com * ตอนนี้มาปฏิบัติงานอยู่ที่ รพ. ขนอม นครศรีธรรมราชครับ
วันศุกร์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2556
2,515แจ้งคำเตือนการใช้ยา ระหว่างยาต้านไวรัสเอชไอวี กลุ่มโปรตีเอสอินฮิบิเตอร์ (protease inhibitor) กับยากลุ่ม ergotamine
ป้ายกำกับ:
Drug
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น