ใน lactated ringer's solution (LRS) มีส่วนประกอบเกลือแร่ใกล้เคียงกับในเลือด โดยเป็น isotonic solution (เป็น physiologic solution) เมื่อเปรียบเทียบกับ normal saline โดยจะมี patassium, calcium และ lactate ด้วย เมื่อ lactate ผ่านตับจะได้องค์ประกอบของ bicarbabonate ซึ่งจะช่วยแก้ไขภาวะ metabolic acidosis ที่เจอร่วมเสมอๆ ใน massive blood loss, burn และโดยเฉพาะในผู้ป่วยที่การสูญเสียสารน้ำทางลำไส้ซึ่งทำให้มีการสูญเสียด่างออกไป (เช่น ท้องเสียจากเชื้อ cholera)
แต่ถ้าคนไข้ตับไม่ดี ไม่สามารถเปลี่ยน lactate เป็น bicarbabonate จะเกิด lactic คั่งค้าง ทำให้เกิดภาวะ acidosis ซึ่งในกรณีนี้ใช้ acetated ringer's solution (ARS) จะดีกว่าเพราะใช้ acetate เป็นแหล่งของ bicarbonate แทน lactate ซึ่ง acetate จะไปเปลี่ยนเป็น bicarbonate ที่กล้ามเนื้อและและร่างกายสามารถ metabolite ได้เร็วกว่า lactate มาก เพราะ pathway ของ acetate ไม่ยุ่งยากซับซ้อนสามารถเปลี่ยนเป็น acetyl CoA เข้าสู่ citric cycle ได้โดยตรง จึงสามารถใช้ในผู้ป่วยที่มีปัญหาตับบกพร่องได้ดีกว่า lactate
ในอายุรกรรมที่ผู้ป่วยมีปัญหา shock อยู่ เลือดใหลเวียนไปที่ตับและกล้ามเนื้อลดลง อาจทำให้ไม่สามารถเปลี่ยน lactate และ acetate เป็น bicarbonate ได้ นอกจากนี้ภาวะ ที่มี acetate สูงในเลือดจะฤทธิ์เป็น vasodilator ซึ่งอาจทำให้ความดันต่ำลงไปอีก จึงนิยมใช้เป็น normal saline มากกว่า และถ้าต้องการแก้ภาวะ metabolic acidosis จะให้เป็น Na bicarbonate ซึ่งเป็น form ที่ร่างกายใช้ได้ทันที
นอกจากนั้นทั้งใน lactated ringer's solution และ acetated ringer's solution (ARS) จะมี patassium และ calcium อยู่ด้วย ซึ่งในผู้ป่วยอายุรกรรมมีความเสี่ยงในการเกิดภาวะไตวายเรื้อรังและการมีโปแตสเซียมในเลือดสูงอยู่แล้ว ในภาวะขาดน้ำก็มีโอกาสเกิดภาวะแคลเซียมในเลือดสูงจึงเป็นอีกเหตุผลที่ทำให้นิยมใช้เป็น normal saline มากกว่า
เพิ่มเติม
-Lactated Ringer ’s Solution ใน 100 ml ประกอบด้วย Na 130 mEq, K 4 mEq, Ca 3 mEq, Cl 109 mEq, lactate 28 mEq
-Acetar Solution ใน 100 ml ประกอบด้วย Na 130 mEq, K 4 mEq, Ca 2.7 mEq, Cl 108.7 mEq, acetate 28 mEq
Ref: http://www.si.mahidol.ac.th/th/department/Biochemistry/webboard/dept_wbdetail.asp?wq_id=133
http://drug.pharmacy.psu.ac.th/Question.asp?ID=9334&gid=1
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น