- ตรวจปริมาณ HCV RNA ในเลือดเพื่อยืนยันการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซี
- ถ้าตรวจไม่พบ HCV RNA ให้ตรวจ HCV RNA อีกครั้งที่ 6 เดือน ถ้าไม่พบ ให้หยุดติดตามได้
- ถ้าตรวจพบ HCV RNA ให้ประเมินสภาวะของโรคตับ ด้วยการตรวจเลือดแสดงการทำงานของตับ (liver function test; LFT) ตรวจทางรังสีวิทยาเช่น อัลตราซาวนด์ และ/ หรือวิธีอื่นได้แก่ ตรวจวัดความยืดหยุ่นของตับ (liver stiffness) ด้วย transient elastography เป็นต้น และตรวจ HBsAg, anti-HBc, HIV Abและ HAV Ab เพื่อพิจารณา แนวทางการดูแลรักษาในผู้ป่วยทุกราย
-ตรวจสายพันธ์ไวรัสตับอักเสบซี (HCV genotype) เพื่อวางแนวทางการรักษา
-แนะนำให้ตรวจหาหลักฐานการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซี ในผู้ป่วยที่ไม่พบสาเหตุของการมีภาวะตับอักเสบ โดยเฉพาะผู้ป่วยไตวายเรื้อรัง หรือผู้ป่วย HIV หรือ ผู้ป่วยที่ได้ยากดภูมิคุ้มกัน ด้วยการตรวจ HCV RNA ในเลือด แม้ว่าการทดสอบ anti-HCV เบื้องต้นให้ผลลบ
เพิ่มเติม
ซึ่งเหตุผลที่ต้องตรวจยืนยันการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซี เนื่องจากผลบวกปลอม (false positive) ของ Anti-HCV อาจพบได้ใน autoimmune disorder, spontaneous, transplant recipient, chronic renal failure on dialysis, HIV positive
Ref: แนวทางการดูแลรักษาผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบซีเรื้อรังในประเทศไทยปี พ.ศ. 2555
http://www.medicthai.net/picture/news/154805abbott321.pdf
ต้องหมั่นตรวจสุขภาพบ่อยๆ ค่ะ เพราะคนเราเป็นแล้วไม่รู้ตัวกันเยอะนะคะ อย่างบางคนกลายเป็นมะเร็งไปเลยก็มี เพราะกว่าจะมาตรวจเจอก็ไม่ทันการณ์เสียแล้ว ลุงเพื่อนเราก็เป็นนะคะ ไวรัสตับอักเสบซีเนี่ย เขาซื้อยาผ่าน V-Med Clinic ที่เชียงใหม่ค่ะ ราคาไม่แพงเลย เพราะเขาทำงานร่วมกับองค์กรมูลนิธิค่ะ ส่งตรงเวลาและก็ได้ของจริงมีมาตรฐานนะคะ ไม่เหมือนที่หลอกขายยาปลอมในอินเตอร์เน็ตทั่วไปสมัยนี้ค่ะ มีเจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำเกี่ยวกับโรคไวรัสตับอักเสบซีอย่างดีค่ะ ตอนแรกได้ยินราคาก็นึกว่าจะโดนหลอก เพราะว่าค่ายาไม่ใช่บาทสองบาทเนอะ ยังไงลองโทรไปคุยรายละเอียดได้ค่ะที่เบอร์ 052-001119 หรือเข้าไปดูรายละเอียดในเว็บไซต์ http://www.vmedclinic.com
ตอบลบ