ส่วนใหญ่ของโรคหลอดเลือดสมองเกิดจากการขาดเลือดโดยมีสาเหตุจากการมีไขมันสะสมและการแข็งตัวของเลือดเป็นลิ่มเลือดไปอุดตันหลอดเลือด (athero/thromboembolism) ต้นกำเนิดที่พบมากที่สุดของการเกิดลิ่มเลือดคือที่หลอดเลือดแดงคาโรติดที่อยู่นอกสมอง (extracranial carotid artery)
โดยการที่มีไขมันสะสมและเกิดการแข็งตัวของหลอดเลือด (atherosclerosis) คาโรติด มักเกิดได้บ่อยโดยเฉพาะส่วนที่เป็นกระเปาะ (carotid bulb) และ ส่วนต้นของ internal carotid artery มีหลายทฤษฎีที่บอกว่าทำไมตำแหน่งนี้จึงมีแนวโน้มที่มีไขมันสะสมและการแข็งตัวของหลอดเลือด แต่ส่วนใหญ่ให้การยอมรับในข้อสนับสนุนที่ว่าผนังหลอดเลือดด้านข้าง (lateral arterial wall) เป็นตำแหน่งที่มี shear stress ต่ำ เป็นตำแหน่งที่มีการแข็งตัวของหลอดเลือด เมื่อโรคดำเนินไปมากขึ้น plaques จะมีลักษณะที่ประกอบด้วยเซลที่เกี่ยวข้องกับการอักเสบเป็นจำนวนมาก มีการสะสมของไขมัน การสะสมของแคลเซียม และการเกิดรอยแผลแบบ ulcer ซึ่งบ่อยครั้งที่มีความสัมพันธ์กับการมีเลือดออกภายในคราบสะสมไขมันและ/หรือการเกิดลิ่มเลือดอุดตัน (โดยเฉพาะรอยโรคที่มีอาการ)
โดยทั่วไปการมีไขมันสะสมและการแข็งตัวของหลอดเลือดที่เพิ่มขึ้นจะทำให้เส้นผ่าศูนย์กลางของหลอดเลือดแดงคาโรติดลดลง ความเสี่ยงของการที่จะมีโรคหลอดแดงคาโรติดหรือโรคหลอดเลือดสมองจะเพิ่มขึ้นเช่นกัน คำอธิบายว่าทำไมระดับการตีบแคบที่มากขึ้นจึงทำให้เกิดความเสี่ยงที่สูงขึ้นของโรคหลอดเลือดสมองแบ่งได้เป็นสองส่วนตามพื้นฐานคือ หนึ่ง คือคราบสะสมไขมันขนาดใหญ่โดยทั่วไปมักจะไม่คงที่และมีแนวโน้มที่ของอัตราการมีเลือดออกภายในก้อนสูงกว่าและเกิดการอุดตันในส่วนปลาย สอง คืออัตราการที่สูงขึ้นของการสร้างลิ่มเลือดที่อุดตันในหลอดเลือดดำ (thrombus formation) เกิดขึ้นในบริเวณที่มี shear stress สูง เช่นที่ซึ่งมีการตีบแคบมาก โดยจะนำไปสู่ลิ่มเลือดอุดตันในส่วนปลาย
ภาพที่ใส่ color เพื่อดู flow ของหลอดเลือด
ภาพนี้ไม่ได้ใส่ color (จุดประเป็นการวัดเส้นผ่านศูนย์กลางหลอดเลือด)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น