-การมีน้ำมูกข้นหรือเปลี่ยนเป็นสีเขียวเหลืองเพียงประการเดียวไม่ใช่ข้อบ่งชี้ของการให้ยาปฏิชีวนะ แต่เป็นลักษณะการดำเนินของโรค เนื่องจากเป็นสีที่เกิดจากเซลเม็ดเลือดขาว polymorphonuclear (PMN) ซึ่งเคลื่อนที่มาบริเวณที่มีการอักเสบตามหลังการติดเชื้อไวรัส และไม่เกี่ยวข้องกับการติดเชื้อแบคทีเรียแต่อย่างใด
-การมีเสมหะข้นสีเขียวเหลืองเพียงประการเดียวอาจบ่งถึงการเป็นไซนัสอักเสบแบบเฉียบพลัน แต่หากมีอาการยังไม่ครบ 10 วัน ยังคงเป็นไซนัสอักเสบแบบเฉียบพลันที่มีสาเหตุจากเชื้อไวรัส
-การมีเสมหะสีเขียวเหลืองเพียงประการเดียวไม่ใช่ข้อบ่งชี้ของการให้ยาปฏิชีวนะ เนื่องจากสามารถพบลักษณะดังกล่าวได้ถึงร้อยละ 50 ในผู้ป่วยที่เป็นหลอดเลือดอักเสบเฉียบพลัน ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่ (มากกว่าร้อยละ 90) เกิดจากการติดเชื้อไวรัสโดยไม่ต้องใช้ยาปฏิชีวนะ โดยสีของเสมหะเกิดจากเซลที่ตายและหลุดลอกออกจากเยื่อบุหลอดลมร่วมกับเซลเม็ดเลือดขาวชนิด mononuclear cell ซึ่งเคลื่อนที่มาบริเวณที่มีการอักเสบ
-การมีไข้สูงเพียงประการเดียวไม่ใช่ข้อบ่งชี้ของการให้ยาปฏิชีวนะ เนื่องจากการติดเชื้อไวรัสอาจทำให้มีไข้สูงได้ เช่น ไข้หวัดใหญ่ หัด ไข้เลือดออก
-การมีคอแดง ไม่ว่าจะแดงมากหรือน้อย ไม่ใช่ข้อบ่งชี้ของการให้ยาปฏิชีวนะ เนื่องจากการมีคอแดงไม่ได้อยู่ใน centor criteria (centor criteria เป็นเกณฑ์เพื่อพิจารณาการให้ยาปฏิชีวนะในภาวะคออักเสบเฉียบพลัน สามารถอ่านเพิ่มเติมได้จากอ้างอิงด้านล่างครับ)
อ้างอิงจาก การใช้ยาปฏิชีวนะอย่างสมเหตุผล: Antibiotics Smart Use
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น