Am J Gastroenterol. 2012 Aug
ชนิดถูกนำมาใช้ หลังจากนั้นให้ยา ranitidine 150 มก. วันละครั้ง จนกระทั่งการกำจัดเชื้อได้รับการยืนยัน โดยวิธี (13)C-urea breath test เมื่อ 8 สัปดาห์หลังจากการรักษาสิ้นสุด ผู้ป่วยที่การรักษาไม่ประสบความสำเร็จจะได้รับยาสูตรที่สอง, สามหรือสี่เพื่อการกำจัดเชื้อ ผู้ป่วยที่มีประสบความสำเร็จในการกำจัดเชื้อจะไม่ได้รับการให้ยาเพื่อรักษาแผลต่อ (maintenance anti-ulcer therapy) และได้รับการติดตามแต่ละปีด้วยการตรวจ breath test ซ้ำ ซึ่งยา NSAIDs จะไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้ในระหว่างการติดตาม
ผลการศึกษา ผู้ป่วยจำนวน 1,000 คนได้รับการติดตามอย่างน้อย 12 เดือน ซึ่งรวมแล้วมีผู้ป่วย 3,253 คน-ปีที่ได้รับการติดตาม โดยมีอายุเฉลี่ย 56 ปี, เพศชาย 75% มี 41% เคยใช้ NSAIDs ในช่วงที่ผ่านมา จากทั้ง หมดพบว่า 69% มีแผลในลำไส้ส่วนต้น (duodenal ulcer), แผลในกระเพาะอาหาร (gastric ulcer) 27% และมีแผลที่ pyloric 4% การเกิดซ้ำของการมีเลือดพบได้ในผู้ป่วย 3 คนที่ 1 ปี (ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากที่ใช้ NSAIDs 2 คนและหลังจากติดเชื้อ H. pylori ซ้ำในอีก1 คน) และเพิ่มขึ้นอีก 2 คนในปีที่ 2 (ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากที่ใช้ NSAIDs 1 คนและหลังจากติดเชื้อ H. pylori ซ้ำในอีก1 คน) อุบัติการณ์สะสมของการมีเลือดออกซ้ำคือ 0.5% (95% confidence interval, 0.16-1.16%) และอัตราอุบัติการณ์ของการมีเลือดออกซ้ำคือ 0.15% (0.05-0.36%) ต่อผู้ป่วยต่อปีของการติดตาม
สรุป การมีเลือดออกซ้ำจากแผลโดยความเป็นจริงแล้วแทบจะไม่เกิดขึ้นในผู้ป่วยที่มีแผลซับซ้อนหลังจากการกำจัดเชื้อ H. pylori แล้ว การให้ยาป้องกันการเกิดแผล (antisecretory) แบบ maintenance ไม่มีความจำเป็นถ้าการกำจัดเชื้อประสบความสำเร็จ อย่างไรก็ตามการใช้ NSAID หรือการติดเชื้อเชื้อ H. pylori ซ้ำอาจก่อให้เกิดการมีเลือดออกซ้ำในผู้ป่วยที่กำจัดเชื้อ H. pylori แล้ว
Ref: http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/22613904?dopt=Abstract
They don't possess time and energy to discover some document proving who
ตอบลบthey are utilized by or what their weekly paycheck is not fake to boost your chances so you can get approved inside the amount that you need, you'll be able to always ask a
creditworthy cosigner to make use of alongside you.