กรณีที่ผู้ป่วยเอชไอวีและมีการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีร่วมด้วย ให้การติดตามผู้ป่วยเป็นระยะตามแนวทางการติดตามผู้ป่วยและเริ่มการรักษาเมื่อมีข้อบ่งชี้
• กรณีที่มีข้อบ่งชี้ในการรักษา HIV อย่างเดียว แนะนำให้ใช้ TDF ร่วมกับ 3TC หรือ FTC เป็น backbone ในสูตรยาต้านไวรัส ไม่ควรใช้ยาที่ใช้รักษา HBV เพียงชนิดเดียวเพราะเชื้อ HBV ดื้อยาง่าย
• กรณีที่มีข้อบ่งชี้ในการรักษาทั้ง HIV และ HBV แนะนำให้ใช้ TDF ร่วมกับ 3TC หรือ FTC เป็น backbone ในสูตรยาต้านไวรัส ไม่ควรใช้ยาที่ใช้รักษา HBV เพียงชนิดเดียวเพราะเชื้อ HBV ดื้อยาง่าย
• กรณีที่มีข้อบ่งชี้ในการรักษา HBV อย่างเดียว แนะนำให้รักษาด้วยยาต้านไวรัส 3 ชนิด ที่มี TDF ร่วมกับ 3TC หรือ FTC เป็น backbone หรือ อาจพิจารณาให้ pegylated interferon-alpha ในกรณีที่ผู้ป่วยสามารถรับภาระค่าใช้จ่ายได้
กรณีที่ต้องหยุด FTC, 3TC หรือ TDF ในระหว่างการรักษาแนะนำให้เฝ้าระวังและติดตามผู้ป่วยเพราะมีโอกาสเกิด hepatic flare ได้ หรือพิจารณาใช้ adefovir dipivoxil หรือ telbivudine เพื่อป้องกัน hepatic flares ในผู้ป่วยที่มีการทำงานของตับไม่ดี
ซึ่งก็อาจจะมีคำถามว่าถ้ากรณีที่ติดเชื้อเอชไอวี แต่เป็นแค่พาหะของไวรัสตับอักเสบบีจะให้ยาอย่างไร จะเห็นจากข้อมูลข้างบนว่าถ้ามีข้อบ่งชี้ในการรักษา HIV เพียงอย่างเดียวก็ต้องให้สูตรยาที่เหมือนกับการรักษาทั้ง HIV และ HBV เพราะการมีสูตรยาที่มี 3TC เพียงตัวเดียวก็อาจส่งผลให้เกิดการดื้อยาง่าย และในช่วงที่ผ่านมามีการใช้ ARV ที่มี 3TC อยู่ในสูตรในผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีร่วมด้วย ก็อาจส่งผลให้เกิดการดื้อยาของ HBV ในผู้ป่วยแล้วก็ได้
Ref: แนวทางการตรวจวินิจฉัยและการดูแลรักษา ผู้ติดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยเอดส์ ระดับชาติ ปี 2553
http://www.doctor.or.th/clinic/detail/8191
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น