พบผู้ป่วยสูงอายุซึ่งมีลักษณะสมองเสื่อมร่วมกับการมีลักษณะที่สงสัยภาวะ normal pressure hydrocephalus จึงสืบค้นข้อมูลพบดังนี้ครับ
การเดินแบบไม่มั่นคง (Gait instability), ภาวะกลั้นปัสสาวะไม่ได้ (urinary incontinence) และภาวะสมองเสื่อม (dementia) เป็นอาการและอาการซึ่งมักจะพบในผู้ป่วยซึ่งมีน้ำคั่งในโพรงสมอง (normal pressure hydrocephalus, NPH) โดยประมาณการว่าไม่น่าจะเกินร้อยละ 5 ของภาวะสมองเสื่อม normal pressure hydrocephalus มักจะสามารถรักษาให้หายได้ และการพบลักษณะทางคลินิกสามอย่าง (triad) ดังที่กล่าวมาข้างต้น ควบคู่กับหลักฐานภาพรังสีจะเป็นสิ่งที่ช่วยมากที่สุดในการวินิจฉัย การตรวจเอกซเรย์คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าหรือเอกซเรย์คอมพิวเตอร์มักจะแสดงให้เห็นถึงการขยายตัวของช่องในสมอง (ventricular) ร่วมกับการที่เนื้อเยื่อรอบๆ สมองที่ยังดีอยู่
ความผิดปกติในภาวะนี้เกิดขึ้นจากความผิดปกติในการระบายออกของน้ำไขสันหลังที่นำไปสู่การเพิ่มขึ้นของขนาดช่องว่างในสมองที่อยู่ติดกับเนื้อสมอง ความดันที่กระทำกับเนื้อสมองก่อให้เกิดเป็นช่องที่เต็มไปด้วยของเหลวจำนวนมากทำให้เกิดความผิดปกติของแนวการเดินเส้นประสาทของเนื้อสมองส่วนสีขาว (white matter) ก่อให้เกิดลักษณะการเดินที่ผิดปกติ การไม่สามารถควบคุมการทำงานของกระเพาะปัสสาวะ รวมถึงความยากลำบากในการประมวลผลการกระตุ้นที่เข้ามาและในการตอบสนองอย่างรวดเร็ว อาการและอาการแสดงมักจะเกิดขึ้นจากผลของความไม่สมดุลระหว่างการผลิตที่มากกว่าปกติอย่างต่อเนื่องของน้ำไขสันหลังและการระบายออก
การทำทางระบายน้ำจากโพรงสมองแบบถาวรลงสู่ช่องท้อง (ventriculoperitoneal shunting) ถูกนำมาใช้เพื่อระบายน้ำไขสันหลังส่วนเกินซึ่งไม่ถูกดูดซึมโดยช่องทางสรีรวิทยาตามปกติ การศึกษาจำนวนมากมีการตรวจสอบเทคนิคที่หลากหลายในผู้ป่วย normal pressure hydrocephalus ในความพยายามที่จะคาดการณ์ประโยชน์ที่ได้จากการทำทางระบาย แต่อย่างไรก็ตามประสิทธิภาพของการทำทางระบายน้ำไขสันหลังไม่เคยได้รับการพิสูจน์ในการศึกษาแบบ randomized controlled trial เพื่อเทียบระหว่างการทำและการไม่ทำทางระบายน้ำไขสันหลัง
การวินิจฉัยขึ้นอยู่กับรายละเอียดของอาการแสดง ลักษณะของภาพรังสีและผลของการตรวจวินิจฉัยอื่นๆ ซึ่งแม้ว่าจะมีเทคนิคมากมายที่ใช้ในการบ่งบอกว่าผู้ป่วยที่มีแนวโน้มที่จะตอบสนองต่อการรักษา แต่ไม่มีวิธีที่สมบูรณ์ที่สุดเพื่อยืนยันการวินิจฉัย การทำทางระบายน้ำไขสันหลังโดย ventriculoperitoneal shunt คือการรักษาที่ใช้กันมากที่สุด
อุบัติการณ์ที่แน่นอนของภาวะนี้ยากที่จะตรวจสอบเนื่องจากยังขาดลักษณะความเป็นทางการ นิยามที่ใช้ข้อมูลจากมติของผู้เชี่ยวชาญ แพทย์บางส่วนให้การวินิจฉัยโดยใช้หลักฐานจากภาพรังสีเป็นหลัก ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลสุขภาพบางกลุ่มใช้ข้อมูลที่เป็นข้อบ่งชี้ทางคลินิก แต่บางส่วนมีการใช้ร่วมกันของอาการและอาการแสดงที่พบว่ามีความน่าเชื่อถือ
Ref: American Academy of Family Physicians
2004 Sep 15;70(6):1071-1078
http://www.aafp.org/afp/2004/0915/p1071.html
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น