หน้าเว็บ

วันศุกร์ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

1,811 Aspirin for preventing the recurrence of venous thromboembolism

Original article
N Engl J Med May 24, 2012


ประมาณ 20% ของผู้ป่วยที่มีภาวะลิ่มเลืือดอุดตันหลอดเลือดดำโดยไม่มีสาเหตุชักนำจะมีการกลับเป็นซ้ำภายใน 2 ปีหลังจากที่หยุดการรักษาด้วยยากันเลือดแข็งตัวชนิดรับประทาน แต่การเพิ่มระยะเวลาในการรับประทานยากันเลือดแข็งตัวมีความเกี่ยวข้องกับการมีเลือดออกที่เพิ่มขึ้น โดยประโยชน์ของยาแอสไพรินในการป้องกันภาวะอุดตันในหลอดเลือดดำซ้ำไม่เป็นที่ทราบอย่างชัดเจน
ในการศึกษาจากหลายๆ ศูนย์ โดยผู้ศึกษาวิจัยได้เริ่มการศึกษาแบบ double-blind ในผู้ป่วยที่เคยมีภาวะลิ่มเลืือดอุดตันหลอดเลือดดำโดยไม่มีสาเหตุชักนำ ซึ่งได้รับการรักษาเสร็จสิ้นในเวลา 6 ถึง 18 เดือนด้วยยากันเลือดแข็งตัวชนิดรับประทาน โดยจะถูกสุ่มให้ยาแอสไพรินขนาด 100 มก. ต่อวันหรือ placebo เป็นเวลา 2 ปี เพื่อศึกษาถึงการเกิดซ้ำของภาวะลิ่มเลืือดอุดตันหลอดเลือดดำและการมีเลือดออกที่รุนแรง (major bleeding) ซึ่งถือว่าเป็นผลลัพท์ด้านความปลอดภัยที่สำคัญ
ผลการศึกษาพบว่า การเกิดซ้ำของภาวะลิ่มเลืือดอุดตันหลอดเลือดดำพบ 28 จาก 205 คนในผู้ที่ได้รับยาแอสไพริน และใน 43 จาก 197 คนผู้ป่วยที่ได้รับ placebo (6.6% เทียบกับ 11.2% ต่อปี hazard ratio, 0.58; 95% confidence interval [CI], 0.36-0.93) (ระยะเวลาการศึกษามัธยฐาน 24.6 เดือน)
ในระหว่างช่วงเวลาการรักษาซึ่งมีค่ามัธยฐาน 23.9 เดือน พบว่า 23 คนที่ได้รับยาแอสไพริน และ 39 คนที่ได้รับ placebo มีการกลับเป็นซ้ำ (5.9% vs 11.0% ต่อปี hazard ratio, 0.55, 95% CI, 0.33-0.92) พบว่าหนึ่งคนในแต่กลุ่มของการรักษาดังกล่าวมีภาวะเลือดออกที่รุนแรง โดยเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์มีความคล้ายคลึงกันในทั้งสองกลุ่ม
ในผลสรุปกล่าวว่า แอสไพรินลดความเสี่ยงของการเกิดขึ้นซ้ำเมื่อให้ในผู้ป่วยที่มีภาวะลิ่มเลืือดอุดตันหลอดเลือดดำชนิดที่ไม่มีสาเหตุชักนำที่หยุดการรักษาด้วยยากันเลือดแข็งตัวชนิดรับประทาน โดยไม่เพิ่มความเสี่ยงของการมีเลือดออกที่รุนแรง

Ref: http://www.nejm.org/doi/full/10.1056/NEJMoa1114238

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น