Critical Care
Published: 17 February 2012
ลักษณะทางคลินิกของการระบาดโรคไข้หวัดใหญ่ชนิด A (H1N1) มีตั้งแต่การติดเชื้อโดยไม่มีไข้จนถึงการเกิดปอดอักเสบที่มีการดำเนินโรคอย่างรวดเร็ว การให้การวินิจฉัยให้ได้โดยทันทีได้รับการแนะนำว่าเหมาะสม การถ่ายภาพรังสีทรวงอก (CXR) มักจะไม่สามารถตรวจหาในช่วง early interstitial stage
การศึกษานี้ได้ทำการศึกษาในผู้ป่วย 89 คน ที่มาห้องฉุกเฉินด้วยกลุ่มอาการของไข้หวัดใหญ่ (influenza-like symptoms) โดยตัดบางคนที่ไม่อยู่ในเงื่อนไขออก มีการใช้ข้อมูลประวัติทางคลินิก การตรวจทางห้องปฏิบัติการ การถ่ายภาพรังสีทรวงอก ทำ CT scan ถ้ามีข้อบ่งชี้เพื่อการวินิจฉัย
ตรวจอัลตร้าซาวด์โดยแพทย์เวชศาสตร์ฉุกเฉิน เพื่อค้นหา interstitial syndrome, alveolar consolidation, pleural line abnormalities และ pleural effusion พบว่า 34 คนได้รับการวินิจฉัยขั้นสุดท้ายว่าเป็นปอดอักเสบ โดยในจำนวนนี้ 16 คนมี CXR ในช่วงแรกปกติ และอีก 33 คนไม่มีปอดอักเสบ ซึ่งถือเป็นกลุ่มควบคุม
ผลการศึกษา จากการทำอัลตร้าซาวด์พบความผิดปกติว่าเป็นปอดอักเสบ 32/34 คน (94.1%) พบลักษณะ interstitial syndrome 15/16 คนในกลุ่มของผู้ที่มี CRX ปกติในช่วงแรก โดยพบว่า 10 คน (62.5%) พบการวินิจฉัยขั้นสุดท้ายว่าเป็นปอดอักเสบ(H1N1) พบว่าในกลุ่มผู้เป็นปอดอักเสบและพบว่ามี CRX มีความผิดปกติตั้งแต่แรกมีเพียง 4 คน ที่การวินิจฉัยขั้นสุดท้ายเป็นปอดอักเสบ (H1N1) (22,2%, p <0.05) โดยส่วนใหญ่รูปแบบของอัลตร้าซาวด์เป็นแบบ alveolar consolidation
และท้ายสุด การตรวจอัลตร้าซาวด์พบลักษณะ interstitial syndrome พบได้ 5/33 คน (15.1%) ของกลุ่มควบคุม ผมลบลวงพบ 2/34 คน (5.9%) และผลบวกลวง 5/33 (15.1%) โดยมีความไว 94.1% ความจำเพาะ 84.8%, positive predictive value 86.5% และ negative predictive value 93.3%.
ในหัวข้อความเห็นกล่าวไว้ว่า การทำอัลตร้าซาวด์เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการวินิจฉัยปอดอักเสบในแผนกฉุกเฉิน และมีความถูกต้องในการตรวจหาปอดอักเสบจาก H1N1 ที่ผล CXR ในช่วงแรกปกติ จึงอาจพิจารณาเพื่อทำเป็นประจำในการตรวจรักษาผู้ป่วย
อ้างอิงและอ่านต่อ http://ccforum.com/content/16/1/R30/abstract
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น