วันศุกร์ที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2555

1,760 Albumin for spontaneous bacterial peritonitis: for high-risk patients only

จาก Journal watch, medicine that matters  
ในการศึกษาแบบสุ่มในผู้ป่วยโรคตับแข็ง พบว่าการให้อัลบูมิทางหลอดเลือดดำร่วมกับการให้ยาปฏิชีวนะลดอุบัติการณ์ของภาวะไตวายและการเสียชีวิตจากการติดเชื้อแบคทีเรียที่เกิดขึ้นเองในช่องท้อง (spontaneous bacterial peritonitis, SBP) (N Engl J Med 1999; 341:403)
การศึกษาลำดับต่อมาได้แนะนำว่า ผู้ป่วยโรคตับแข็งที่มีการทำงานของไตดีและระดับบิลิรูบินในซีรั่มต่ำอาจไม่จำเป็นต้องได้รับอัลบูมิในระหว่างการเกิด SBP อย่างไรก็ตามการศึกษานี้ได้ดำเนินการในประชากรผู้ป่วยที่มีการคัดเลือกซึ่งไม่อาจสะท้อนถึงการปฏิบัติงานจริง
     โดยนักวิจัยได้ศึกษาแบบ nonselected cohort  ถึงผลลัพท์ในผู้ป่วยโรคตับแข็งที่ได้รับการรักษาที่ศูนย์แห่งหนึ่งในสเปนซึ่งเป็นตัวแทนของการดูแลรักษาผู้ป่วยของชุมชน  ผู้ป่วยได้รับการพิจารณาว่ามีความเสี่ยงต่ำต่อการเสียชีวิตถ้าระดับยูเรียน้อยกว่า11 มิลลิโมล / ลิตรและบิลิรูบินน้อยกว่า 68 ไมโครโมล / ลิตรในระหว่างที่เกิด SBP และมีความเสี่ยงสูงต่อการเสียชีวิตถ้าระดับยูเรียตั้งแต่ 11 มิลลิโมล / ลิตร และบิลิรูบินคือตั้งแต่  68 ไมโครโมล / ลิตร
ผู้ป่วยทุกรายได้รับยาปฏิชีวนะ (ส่วนใหญ่คือ cefotaxime หรือ ceftriaxone นาน 7 วัน) ผู้ป่วยบางคนที่มีความเสี่ยงสูง ได้รับการให้อัลบูมิ (1.5 กรัม / กิโลกรัมของน้ำหนักร่างกายในวันที่ 1 และ 1 กรัม / กิโลกรัมในวันที่ 3) จุดหมายของการศึกษาหลักคือเพื่อดูการเสียชีวิตระหว่างอยู่ในโรงพยาบาล ความน่าจะเป็นของการอยู่รอดที่ 3 เดือนและการเกิดภาวะไตวาย (ระดับ creatinine ในเลือดมากกว่า 133 ไมโครโมล / ลิตร)
   ในช่วงเวลา 7 ปี มีการเกิด SBP  216 ครั้ง ในผู้ป่วย 167 คน โดยพบว่า 30% ของจำนวนการเกิด พบในผู้ป่วยที่ความเสี่ยงต่ำและ 70% เกิดขึ้นในผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูง
เมื่อเทียบกันพบว่าในผู้ป่วยโรคความเสี่ยงต่ำมีอัตราของภาวะไตวายน้อยกว่า (4.7% vs 25.6%, P = 0.001) การเสียชีวิตระหว่างอยู่ในโรงพยาบาลน้อยกว่า (3.1% vs 38.2%; P <0.001) และความอยู่รอดที่ 3 เดือนที่สูงขึ้น (93% vs 53%, P <0001)
ผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูงที่ได้รับทั้งอัลบูมิและยาปฏิชีวนะ เปรียบเทียบกับการได้ยาปฏิชีวนะเพียงอย่างเดียว พบว่าการให้อัลบูมินร่วมด้วยมีอัตราการเสียชีวิตในโรงพยาบาลลดลง (28.8% vs 46.8%, p = 0.02) และการอยู่รอดที่ 3 เดือนที่สูงขึ้น (62% vs 45% p = 0.01)
และในหัวข้อการแสดงความเห็นช่วงท้าย ได้เขียนไว้ว่า ผลการศึกษานี้ช่วยยืนยันผลการศึกษาก่อนหน้านี้ที่ว่า ไม่จำเป็นที่ผู้ป่วยทุกรายซึ่งเป็นโรคตับแข็งและเกิด SBP ต้องได้รับอัลบูมิน การให้ควรทำในผู้ป่วยที่มีระดับบิลิรูบินและยูเรียสูง ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการทำหน้าที่ของตับและไต

Ref: http://gastroenterology.jwatch.org/cgi/content/full/2012/413/1

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น