หน้าเว็บ

วันอาทิตย์ที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2555

1,731 Treatment of warfarin-associated intracerebral hemorrhage (ICH)

เพิ่งพบกรณีที่ผู้ป่วยหญิง 80 ปี เป็นโรคลิ้นหัวใจไมทรัลรั่ว atrial fibrillation และหลอดเลืดสมองอุดตันรับประทานยาวาร์ฟารินอยู่แล้วเกิดมีเลือดออกในสมอง จึงสืบค้นการศึกษาเพื่อดูเรื่องการดูแลรักษา
Treatment of warfarin-associated intracerebral hemorrhage
Literature review and expert opinion
อัตราการเสียชีวิตตั้งแต่ในระยะแรกมีถึงประมาณ 50% โดยอัตรายังคงที่ในช่วงสิบปีที่ผ่านมานี้ ในทางตรงกันข้ามกับการที่มีเลือดออกตามธรรมชาติระยะเวลาของการมีเลือดออกประมาณ 12 ถึง 24 ชั่วโมง จึงทำให้มีเวลาและโอกาสในการให้การดูแลรักษามากกว่า
การรักษามีความแตกต่างกันไปอย่างมากและการรักษาที่ดีที่สุดยังไม่ได้ถูกกำหนดไว้ การศึกษานี้ได้ทำการค้นหาโดยใช้ Ovid search โดยดำเนินการตั้งแต่เดือนมกราคมปี 1996 ถึงเดือนมกราคมปี 2006 โดยการใช้คำว่า warfarin หรือ anticoagulation ร่วมกับ intracranial hemorrhage หรือ intracerebral hemorrhage
โดยการให้ผู้เชี่ยวชาญ 7 คน ซึ่งเชี่ยวชาญทางคลินิกเกี่ยวกับโรคหลอดเลือดสมอง ผู้ที่ดูแลป่วยหนักทางระบบประสาทและผู้เชี่ยวชาญด้านโลหิตวิทยา ซึ่งจากข้อมูลที่มีอยู่แลการให้ผู้เชี่ยวชาญตอบแสดงถามเห็นต่อ 3 สถานการณ์เกี่ยวกับการแก้ไขความผิดปกติการแข็งตัวของเลือด ในกรณีที่วาร์ฟารินทำให้เกิดเลือดออกในสมอง
ผลพบว่า ผู้เชี่ยวชาญทั้งหมดเห็นพ้องกันว่าควรแก้ไขให้ภาวะแข็งตัวของเลือดกลับมาปกติอย่างเร่งด่วน
แต่วิธีการเพื่อให้บรรลุมีความแตกต่างกัน โดยพบว่ามี 3 ผู้เชี่ยวชาญ เห็นว่าควรใช้  prothrombin complex
concentrates อย่างเดียว มี 2 ผู้เชี่ยวชาญ ใช้ recombinant factor VIIa VIIa อย่างเดียว มี1 ผู้เชี่ยวชาญ ใช้ recombinant factor VIIa ร่วมกับการใช้ fresh frozen plasma และมี 1 ผู้เชี่ยวชาญ ใช้ prothrombin complex concentrates หรือ fresh frozen plasma
และผู้เชี่ยวชาญทั้งหมดอยากที่จะให้เริ่มต้นกลับมาใช้วาร์ฟารินใหม่ภายใน 3 ถึง 10 วันหลังจากการมีเลือดออกในสมองคงที่ในผู้ป่วยที่จำเป็นต้องได้ยา anticoagulants ยังไม่มีข้อตกลงที่ใช้กันทั่วไปเกี่ยวกับยา anticoagulation ในผู้ป่วย AF ที่รอดชีวิตจาก warfarin-associated ICH
สำหรับ warfarin-associated ICH การหยุดการรักษาด้วยวาร์ฟารินและให้วิตามินเคต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงและไม่เพียงพอ การดูแลรักษาที่มีเหตุผลเหมาะสมตามความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญรวมถึงการใช้วิธีการอื่นเพื่อให้การแข็งตัวของเลือดกลับมาปกติ ยังไม่มีหลักฐานที่แน่นอนชัดเจนนัก
(Ovid คือ ฐานข้อมูลวารสารออนไลน์ ในสาขาทางการแพทย์ และสาขาที่เกี่ยวข้อง ประมาณ 300 ชื่่อ)

อ้างอิงและอ่านต่อ: http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/17285789

และอีกหนึ่งอ้างอิง ซึ่งเนื้อหากล่าวว่า...
เมื่อไม่นานมานี้มีการเผยแพร่แนวทางในการดูแลออกมาแต่มีความแตกต่างกันในคำแนะนำตามแต่ละสมาคมวิชาชีพ ความแตกต่างนี้เนื่องจากการขาดหลักฐานสนับสนุนที่ใช้การรักษาด้วยพลาสม่า ( plasma therapy), ความแตกต่างกันในความพร้อมในการจัดหา prothrombin complex concentrates, ความผันแปรของระดับ coagulation factor และส่วนประกอบของ prothrombin complex concentrates, ความคลุมเครือเกี่ยวกับปริมาณที่เหมาะสมและวิธีการให้ (route) ของวิตามินเคและขาดขั้นตอนแนวทางการดูแลที่เป็นมาตรฐานในทางคลินิก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระดับโรงพยาบาลชุมชน ในการดูแลผู้ป่วยวิกฤติ โดยเนื้อหาในบทความจะเป็นการทบทวน สรุปข้อมูลที่เกี่ยวข้องที่ยังเป็นที่โต้แย้งกัน และข้อเสนอแนะ ณ.ปัจจุบันสำหรับการดูแลผู้ป่วยที่มีภาวะ  warfarin-associated ICH

อ้างอิงและอ่านต่อ: http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed?term=21411756

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น