-ในผู้ป่วยที่ได้ยาต้านการแข็งตัวของเลือด เมื่อมี INR สูงขึ้นไม่มากและไม่มีภาวะเลือดออก ควรหลีกเลี่ยงการให้วิตามินเคทั้งรับประทานและทางหลอดเลือดดำ โดยเฉพาะในผู้ที่ใส่ลิ้นหัวใจเทียม เพราะอาจเกิดภาวะที่ INR ต่ำมากและเกิดภาวะ warfarin resistance ต่อเนื่องไปเป็นสัปดาห์ และการให้วิตามินเคทางหลอดเลือดดำยังเสี่ยงต่อการเกิด anaphylaxis ได้ด้วย
-ถ้า INR สูงปานกลาง คือระหว่าง 5-9 ไม่มีเลือดออกแต่มีความเสี่ยงต่อการมีเลือดออกควรให้โดยการรับประทาน 1-2.5 มก.(และไม่แนะนำให้เข้าทางใต้ผิวหนัง) ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะทำให้ INR กลับมาปกติในเวลา 24 ชม.
-แต้่ถ้า INR สูงมาก เช่นมากกว่า 9 โดยไม่มีภาวะเลือดออก อาจให้โดยการรับประทาน 2.5-5 มก. ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะทำให้ INR กลับมาปกติในเวลา 24-48 ชม.แต่ถ้้ายังไม่ปกติอาจให้อีก 1-2.5 มก.
-และถ้ามีเลือดออกรุนแรงร่วมกับ INR สูงกว่าปกติก็ควรให้ 10 มก. ทางหลอดเลือดดำช้าๆ ร่วมกับการให้ ปัจจัยการแข็งตัวของเลือด
อ่านรายละเอียดเพิ่ม
แนวทางการรักษาผู้ป่วยด้วยยาต้านการแข็งตัวของเลือดชนิดรับประทาน (Warfarin Guideline)
http://www.thaiheart.org/images/column_1292154183/warfarin_Guideline%281%29.pdf
เพื่อการเรียนรู้ medicine และสุขภาพที่ดีของประชาชน (community hospital) * เดิมคือ Phimaimedicine.blogspot.com * ตอนนี้มาปฏิบัติงานอยู่ที่ รพ. ขนอม นครศรีธรรมราชครับ
วันจันทร์ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น