Hypomagnesemia คือการมีแมกนีเซียมต่ำกว่า 1.8 mg/dL (< 0.74 mmol/L) อาจเกิดจากการรับประทานไม่เพียงพอการสูญเสียจากระบบทางเดินอาหารและทางไตหรือการกระจายตัวจากภายนอกเข้าสู่ภายในเซล การเพิ่มการสูญเสียทางไตจากทางพันธุกรรมหรือจากโรคไตที่เกิดขึ้นภายหลัง
ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะไม่มีอาการ โดยมักมีอาการถ้าระดับต่ำกว่า 1.2 mg/dL ภาวะที่เป็นอันตรายต่อชีวิตคือ ventricular arrhythmia
ในการหาสาเหตุเบื้องต้นคือคือการตรวจวัด fractional excretion ของ magnesium และ urinary calcium-creatinine ratio
การตอบสนองของไตในภาวะขาดแมกนีเซียมเนื่องจากการสูญเสียจากระบบทางเดินอาหารคือการมี fractional excretion of magnesium น้อยกว่า 2%. fractional excretion ที่มากกว่า 2% ในผู้ที่การทำงานของไตปกติบ่งชี้ renal magnesium wasting
ทั้ง Barter syndrome และ Gitelman syndrome และการใช้ยาขับปัสสาวะกลุ่ม loop diuretics และ thiazide ก็จะเกิด renal magnesium wasting และเกิดการมีแมกนีเซียมต่ำเช่นกัน
-แต่พบว่า Barter syndrome และการใช้ loop diuretics จะมีภาวะ hypercalciuria (calcium-creatinine ratio > 0.22)
-ส่วน Familial renal magnesium wasting จะมีภาวะ hypercalciuria (calcium-creatinine ratio > 0.22)
-โดย Gitelman syndrome และการใช้ thiazide จะมีภาวะ hypocalciuria (calciumcreatinine ratio < 0.22)
ในผู้ป่วยที่ไม่มีอาการควรให้เสริมโดยการรับประทาน การให้ทางหลอดเลือดดำควรสงวนไว้ในผู้ที่มีอาการโดยมีระดับต่ำกว่า < 1.2 mg/dL การดูแลแก้ไขให้ไตทำงานเป็นปกติมีความจำเป็นก่อนการให้แมกนีเซียม
อ้างอิงและอ่านเพิ่ม:
http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/20081299
http://www.sid.ir/en/VEWSSID/J_pdf/116620100102.pdf
เพื่อการเรียนรู้ medicine และสุขภาพที่ดีของประชาชน (community hospital) * เดิมคือ Phimaimedicine.blogspot.com * ตอนนี้มาปฏิบัติงานอยู่ที่ รพ. ขนอม นครศรีธรรมราชครับ
วันอังคารที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554
1,418. Hypomagnesemia: an evidence-based approach to clinical cases
ป้ายกำกับ:
Fluid and electrolyte
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น