GINA report 2010 ซึ่งเป็นฉบับล่าสุด มีเนื้อหาดังนี้ครับ
ในระหว่างการตั้งครรภ์ความรุนแรงของโรคหืดมักมีการเปลี่ยนแปลงและผู้ป่วยต้องการการดูแลรักษาอย่างใกล้ชิดรวมถึงการปรับการรักษา โดยประมาณหนึ่งในสามจะมีอาการแย่ลง หนึ่งในสามจะมีอาการดีขึ้น อีกหนึ่งในสามอาการเท่าๆเดิม
การควบคุมโรคไม่ดีจะเพิ่มอัตราการเสียชีวิตของทารก คลอดก่อนกำหนด น้ำหนักตัวน้อย
โดยรวมแล้วการพยากรณ์โรคของทารกแรกคลอดในมารดาที่สามารถควบคุมอาการได้ดีในช่วงตั้งครรภ์จะเทียบเท่ากับมารดาที่ไม่ได้เป็นโรคหอบ ด้วยเหตุผลนี้การให้การดูแลให้สามารถควบคุมอาการโรคให้ดีและเหมาะสมจึงเป็นสื่งที่มีเหตุผลถึงแม้ว่าความปลอดภัยต่อการตั้งครรภ์ยังไม่ได้รับการพิสูจน์อย่างชัดเจนนัก โดยยาส่วนใหญ่ที่ใช้รักษาโรคหอบมีหลักฐานเพียงเล็กน้อยว่าจะเพิ่มความเสี่ยงในทารก
จากการเฝ้าติดตามการใช้ Theophylline, inhaled glucocorticosteroid, Beta2 agonist และ leukotriene modifiers(โดยเฉพาะ montelukast) ไม่พบความสัมพันธ์กับการเพิ่มของความผิดปกติของทารก
Glucocorticosteroid ชนิดพ่น แสดงให้เห็นว่าสามารถป้องกันการกำเริบเฉียบพลันได้(หลักฐานระดับ B) การรักษาภาวะกำเริบเฉียบพลันอย่างรวดเร็วและเต็มที่ช่วยหลีกเลี่ยงการขาดอออกซิเจนในทารก ซึ่งการรักษาได้แก่การให้ยาพ่น Beta2 agonist ที่ออกฤทธิ์เร็ว ออกซิเจนและ systemic glucocorticosteroid ควรจะให้ถ้ามีความจำเป็น
โดยที่ผู้ป่วยทุกคนควรจะได้รับโอกาสในการพูดคุยอธิบายเกียวกับความปลอดภัยของการรักษา ควรได้รับการแนะนำว่ามีโอกาสเสี่ยงสูงที่ทารกจะเสียชีวิตได้ถ้าไม่สามารถควบคุมอาการได้ และความปลอดภัยของการรักษาใหม่ๆ ควรได้รับการเน้นย้ำให้รับทราบ รวมถึงการมีความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างแพทย์กับผู้ป่วยด้วย
Ref: http://www.ginasthma.org/guidelines-gina-report-global-strategy-for-asthma.html
ขอบพระคุณค่ะ กำลังขึ้นวอร์ด OB-GYN อยู่เลยค่ะ นสพ.ตัวน้อย^^
ตอบลบ