การแยกภาวะทั้งสองมีความจำเป็นเพื่อให้การวินิจฉัยได้อย่างถูกต้อง
Spasticity: พบในความผิดปกติของ pyramidal tract
คำตั้งเดิมคือ ‘Clasp knife spasticity’ เป็นลักษณะความตึงตัวของกล้ามเนื้อที่เพิ่มมากขึ้นในช่วงเริ่มแรกของการเคลื่อนไหว คล้ายการง้างมีดพับ โดยจะต้องออกแรงมากในช่วงแรก และความตึงตัวจะเพิ่มมากขึ้นสัมพันธ์กับกับความเร็วในการทดสอบ
Rigidity:
พบในความผิดปกติของระบบ extrapyramidal คล้ายกับที่พบใน Parkinsonism มี 2 กลุ่มย่อยคือ
1. Cog wheel rigidity – เป็นการสั่นที่เกิดซ้อนกับภาวะที่มีการตึงตัวของกล้ามเนื้อที่เพิ่มขึ้น ทำให้มีการเพิ่มขึ้นชั่วคราวของการตึงตัวกล้ามเนื้อระหว่างการเคลื่อนไหว จะเป็นลักษณะการกระตุก หรือเหมือนมีแรงต้านเป็นระยะคล้ายกับมีดสปริง
2. Lead pipe rigidity – เป็นรูปแบบการเพิ่มการตึงตัวของกล้ามเนื้อโดยไม่ขึ้นกับความเร็ว คือความตึงตัวของกล้ามเนื้อจะไม่เพิ่มมากแม้จะใช้ความเร็วในการทดสอบมากขึ้น (ความตึงตัวจะเท่ากันโดยตลอด)
Ref: http://pgblazer.com/2010/12/difference-between-spasticity-and-rigidity.html
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น