Purple Urine Bag Syndrome (PUBS) ซึ่งมีรายงานครั้งแรกในโลกเมื่อปี ค.ศ. 1978 โดยมักเกิดกับผู้ป่วยสูงอายุที่ใส่สายสวนปัสสาวะเป็นเวลานาน มักพบในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย ผู้ป่วยมักมีอาการท้องผูก และเมื่อตรวจปัสสาวะพบมีการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ
กระบวนการเกิดสีม่วงในปัสสาวะเริ่มจากการทานอาหารที่มีกรดอะมิโน Tryptophan แล้วถูกแบคทีเรียในทางเดินอาหารย่อยได้สาร Indole ดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด จากนั้นถูกเมตาโบไลท์ที่ตับเปลี่ยนเป็นสาร Indoxyl Sulphate ซึ่งจะถูกขับออกทางปัสสาวะ หากในขณะนั้นปัสสาวะมีความเป็นด่างและมีแบคทีเรียจำพวก Pseudomonas aeruginosa, Proteus mirabilis, Morganella morganii, Escherichia coli มันจะปล่อยเอนไซม์ออกมาย่อย Indoxyl Sulphateไปเป็น Indoxyl ซึ่งจะสลายตัวเป็นสาร Indicoซึ่งมีสีน้ำเงิน และสาร Indirubinซึ่งมีสีแดง ตามหลักของแม่สี แดง+น้ำเงิน = ม่วง และสารทั้งสองชอบจับกับผิวพลาสติกPVC ทำให้ถุงปัสสาวะมีสีม่วง
กระบวนการเกิดสีม่วงในปัสสาวะเริ่มจากการทานอาหารที่มีกรดอะมิโน Tryptophan แล้วถูกแบคทีเรียในทางเดินอาหารย่อยได้สาร Indole ดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด จากนั้นถูกเมตาโบไลท์ที่ตับเปลี่ยนเป็นสาร Indoxyl Sulphate ซึ่งจะถูกขับออกทางปัสสาวะ หากในขณะนั้นปัสสาวะมีความเป็นด่างและมีแบคทีเรียจำพวก Pseudomonas aeruginosa, Proteus mirabilis, Morganella morganii, Escherichia coli มันจะปล่อยเอนไซม์ออกมาย่อย Indoxyl Sulphateไปเป็น Indoxyl ซึ่งจะสลายตัวเป็นสาร Indicoซึ่งมีสีน้ำเงิน และสาร Indirubinซึ่งมีสีแดง ตามหลักของแม่สี แดง+น้ำเงิน = ม่วง และสารทั้งสองชอบจับกับผิวพลาสติกPVC ทำให้ถุงปัสสาวะมีสีม่วง
ขออนุญาติแสดงความคิดเห็นค่ะ
ตอบลบตอนแรกก็นึกถึงยาค่ะ เช่น ยาที่ชาวบ้านมีความเชื่อว่าเป็นยาล้างไต หรือ ยาล้างลำกล้อง แล้วไปซื้อหามาทานเอง ซึ่งมัีกจะมีส่วนผสมของ methylene blue แล้วทำให้ปัสสาวะเป็นสีฟ้า แต่ก็ไม่ฟ้าสดขนาดภาพของคุณหมอนะค่ะ ขอบคุณค่ะ
เห็นด้วยกับ คุณ nestaky ตอนแรกหลงคาดคั้นคนไข้อยู่นานว่าไปซื้อยาล้างไตกินเองหรือเปล่า เขาปฏิเสธก็ยังจะไม่เชื่อ เพิ่งถึงบางอ้อตอนไปอบรม (ขอโทษนะคะคุณคนไข้ต่อไปจะไม่ว่าแล้ว)
ตอบลบ