สงสัย Carrier/Chronic Hepatitis B โดยมี HBeAg-positive
การที่มี HBeAg positive บ่งบอกว่ามีไวรัส synthesis อยู่ซึ่งแสดงถึง infectivity และไวรัสจำนวนมาก ในผู้ป่วยที่อายุน้อยจะพบ HBeAg positive เกือบทุกราย ต่อมาจะหายไปเพราะมี spontaneous seroconversion โดยพบได้ปีละ 3-5% ดังนั้นเมื่ออายุมากขึ้นHBeAg จึงไม่ค่อยพบ ส่วนในผู้ป่วยที่มี chronic active hepatitis HBeAg จะมีความสัมพันธ์กับ activity ของโรค คือผู้ป่วยที่มี HBeAg positive มักมีการอักเสบอยู่โดยที่มี SGOT, SGPT สูงผิดปกติ
ซึ่งในผู้ป่วยมี SGPT [ALP] ขึ้นประมาณ 1.5 เท่าคงต้องติดตามการเปลี่ยนแปลงต่อ และการที่สูงขึ้นอาจจะมาจากสาเหตุอื่นก็ได้
เพิ่มเติม: Carrier (asymtomatic) จะหมายถึงผู้ป่วยที่ไม่มีอาการทางคลินิกและมีค่า SGPT ปกติ ส่วนผู้ที่มี Chronic hepatitis B infection แบ่งเป็น active และ inactive ถ้า active จะมี SGPT ผิดปกติมากกว่า 2 เท่า ส่วน inactive SGPT จะปกติ
ผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบบี เรื้อรัง ที่ควรได้รับการรักษา
ผู้ที่สมควรได้รับการรักษา ได้แก่ผู้ป่วยที่มีลักษณะดังต่อไปนี้1. HBsAg บวกในเลือดไม่ต่ำกว่า 6 เดือน
2. มีหลักฐานที่บ่งว่ามี active HBV viral replication คือ
a. HBeAg เป็นบวก หรือ HBV DNA มากกว่าหรือเท่ากับ 20,000 IU/ml
b. HBeAg เป็นลบ และมี HBV DNA มากกว่าหรือเท่ากับ 2,000 IU/ml
3. ระดับ serum ALT มากกว่าหรือเท่ากับ 1.5 upper limit of normal (ULN) อย่างน้อย 2 ครั้งห่างกันไม่น้อยกว่า 3 เดือน (ยกเว้นในกรณีผู้ป่วยมีหลักฐานว่ามีตับแข็งหรือ impendingdecompensation พิจารณาให้การรักษาถึงแม้จะมี ALT ปกติหรือไม่จำเป็นต้องรอห่างกันเกิน 3 เดือน)
4. ควรมีการตรวจพยาธิสภาพของตับเพื่อยืนยันว่าสาเหตุของการเพิ่มของ serum aminotransferaseเป็นจากไวรัสตับอักเสบ บี และมีลักษณะทางพยาธิวิทยาบ่งชี้ว่ามีการอักเสบลุกลามของเนื้อตับอันเนื่องมาจากไวรัสตับอักเสบชนิด บี ซึ่งควรมี HAI necroinflammatory score มากกว่าหรือเท่ากับ 3 หรือ มี significant fibrosis (equivalent Metavir score มากกว่าหรือเท่ากับ 2)
5. ควรตรวจ HCV Ab และ HIV Ab ก่อนได้รับการรักษาทุกราย
6. ต้องไม่มีโรคอื่นที่เป็นสาเหตุหลักของตับอักเสบ
ในกรณีที่ผู้ป่วย chronic hepatitis B infection ที่ยังไม่มีข้อบ่งชี้ในการรักษาหรือ เป็น inactive chronic hepatitis B infection ไม่สมควรให้ยาต้านไวรัส แต่ควรได้รับการติดตาม ALT เป็นระยะๆ ทุก 3-6 เดือน ก่อนให้การรักษาผู้ป่วย chronic hepatitis B ควรได้รับการประเมินและการแนะนำอย่าง ละเอียด ซึ่งรวมถึง ภาวะของโรค โรคร่วม ข้อจำกัดหรือข้อห้ามในการใช้ยา การปฏิบัติตัว ค่าใช้จ่ายในการรักษาและการติดตามระยะยาว
Ref: http://www.liversocietythailand.org/document/CHB_Guideline_13_03_10.pdf
-หนังสือ โรคตับและทางเดินน้ำดี second edition
-หนังสือ แนวทางการดูแลผู้ป่วยโรคตับอักเสบเรื้อรัง ในประเทศไทย
Chronic Hepatitis B,HBeAg-positive patients
ตอบลบ1. ส่ง HIV
2. หาสาเหตุอื่นที่แก้ไขได้ ของการ elevate ของ Liver Enzymes เช่น Alcohol, ยา แล้วแก้ไขสาเหตุพวกนี้ให้หมด ในช่วงที่ F/u เจาะ LAB
3. ส่ง HBV DNA
4. พิจารณา liver Biopsy จากการ Serial ดู LFT และ HBV DNA
Case นี้น่าจะ F/u ดูก่อน และ investigation ก่อน