มีหลักในการส่งตรวจ Tumor marker อย่างไร Tumor marker (สารบ่งชี้มะเร็ง)
1. ช่วยวินิจฉัยโรคมะเร็ง โดยต้องพิจารณาร่วมไปกับประวัติ, การตรวจร่างกาย, การตรวจทาง ห้องปฏิบัติการ และการตรวจทางการแพทย์อื่นๆ เช่น X-ray, ultrasound เป็นต้น การตรวจพบระดับ tumor maker สูงกว่าปกติเพียงอย่างเดียวโดยไม่พบความผิดปกติทาง คลินิกอื่นๆ ยังไม่สามารถให้การวินิจฉัยว่าเป็นโรคมะเร็งได้ แต่สามารถใช้เป็นข้อมูลที่ชี้แนะว่าแพทย์ควร สืบค้นต่อไปด้วยวิธีการอื่นๆ อย่างครบถ้วน และควรต้องตรวจติดตามระดับของ tumor marker เป็นระยะๆ ต่อไป ถ้าพบว่าระดับ tumor marker มีค่าสูงขึ้นเป็นลำดับ แสดงว่าน่าจะเป็นโรคมะเร็ง
2. ช่วยตรวจกรอง (screening) โรคมะเร็งบางชนิดในคนที่มีความเสี่ยงสูง ในปัจจุบันมี tumor marker เพียง 2 ชนิดเท่านั้น ที่ได้รับการยอมรับว่าสามารถใช้ตรวจกรองโรคมะเร็งในคนที่ มีความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งบางชนิดสูงได้ ได้แก่
-Alpha-fetoprotein (AFP) : ในคนที่เป็น hepatitis B carrier, chronic hepatitis, cirrhosis เพื่อตรวจกรองภาวะมะเร็งตับ
-Prostate specific antigen (PSA) : ในผู้ชายที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป โดยเฉพาะในรายที่มี ปัญหาปัสสาวะลำบาก เพื่อตรวจกรองภาวะมะเร็งต่อมลูกหมาก
3. ใช้ติดตามผลการรักษาและการกลับเป็นซ้ำของโรคมะเร็ง เป็นประโยชน์ที่นิยม
ใช้มากที่สุดของ tumor marker ที่มีใช้อยู่ในปัจจุบัน โดยแนะนำว่า ผู้ป่วยมะเร็งที่ตรวจพบว่ามีระดับtumor marker สูงตั้งแต่เมื่อแรกวินิจฉัย หลังจากได้รับ การรักษาแล้ว (ไม่ว่าจะเป็นโดยวิธีผ่าตัด และ/หรือ เคมีบำบัด และ/หรือ การฉายแสง) ถ้าการรักษานั้น ได้ผลดี ระดับ tumor marker ที่เคยสูงอยู่เดิม ควรค่อยๆ ลดลงมาจนถึงระดับปกติ และคงอยู่ใน ระดับปกตินั้นต่อไป ถ้าระดับ tumor marker ที่เคยลดลงหลังการรักษาจนถึงระดับปกตินี้ กลับมีค่าสูงขึ้นเป็น ลำดับอย่างต่อเนื่องอีกครั้ง แสดงว่าน่าจะมีการกลับเป็นใหม่ของโรคมะเร็ง (tumor recurrence) โดยทั่วไป ระดับ tumor marker ที่ขึ้นสูงภายหลังการรักษาที่เกิดจากการกลับเป็นใหม่ของมะเร็งนี้ มักตรวจพบได้ก่อนที่จะตรวจพบอาการแสดงทางคลินิกที่แสดงว่ามีการกลับเป็นใหม่ของโรคมะเร็ง เฉลี่ย ประมาณ 2-6 เดือน
4. พยากรณ์โรค เนื่องจากระดับ tumor marker จะแปรผันตามระยะของโรคมะเร็ง ดังนั้นถ้าตรวจ พบระดับ tumor marker สูงมากตั้งแต่เมื่อแรกวินิจฉัย แสดงว่ามะเร็งน่าจะมีขนาดใหญ่ หรือมีการแพร่กระจาย แล้ว การพยากรณ์โรคในผู้ป่วยกลุ่มนี้จึงมักแย่กว่าผู้ป่วยที่มีระดับ tumor marker ต่ำเมื่อแรกวินิจฉัย
5. อาจนำไปใช้ช่วยในการเลือกวิธีการรักษาโรคมะเร็ง เช่น การตรวจหา estrogen
receptor และ progesterone receptor ของผู้ป่วยมะเร็งเต้านม เพื่อเลือกที่จะให้การรักษาด้วย hormonal therapy เป็นต้น
เพื่อการเรียนรู้ medicine และสุขภาพที่ดีของประชาชน (community hospital) * เดิมคือ Phimaimedicine.blogspot.com * ตอนนี้มาปฏิบัติงานอยู่ที่ รพ. ขนอม นครศรีธรรมราชครับ
วันอาทิตย์ที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2553
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
หลักก็คือ ไม่ส่งถ้าไม่มี evidence ยกเว้น specific เช่น PSA, AFP
ตอบลบ