หญิง 56 ปี underlying MG on pyridostigmin [60] 2x2 มาด้วยกลืนลำบาก ปากสั่นควบคุมไม่ได้ พูดไม่ชัดรู้สึกเหมือนลิ้นแข็ง หายใจไม่อิ่ม 1 วัน PE: Mild dyspnea, Mild dysarthria and dysphagia, Mild ptosis, no sweating, Pupil 2 mm. RTL BE , Electrolyte and DTX WNL [ไม่ได้ขาดยา] คิดถึงอะไรได้บ้าง ต้องตรวจวินิจฉัยเพิ่มอย่างไร รักษาอย่างไร
Differenfial diagnosis: Myasthenic crisis VS Cholonergic crisis
Myasthenic crisis จะมีการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อโดยเฉพาะกล้ามเนื้อที่เกี่ยวข้องกับการหายใจถ้าอ่อนแรงมากจะทำให้เสียชีวิตได้ สาเหตุอาจจะเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงการดูดซึมของยา หรือความรุนแรงของโรคที่เป็นมากขึ้น และอาจมีปัจจัยกระตุ้น เช่น infection, fever, stress
Cholinergic crisis ต้องสงสัยในผู้ป่วยที่ได้รับยารักษา myasthenia gravis ในขนาดสูง จะมีอาการ flaccid paralysis, respiratory failure, รวมทั้งอาการและอาการแสดงอื่นๆ คล้ายกับการได้สารพิษกลุ่ม organophosphate ได้แก่ sweating, salivation, bronchial secretion, miosis สามารถป้องกันผลข้างเคียงนี้ได้โดยการให้ยา oral atropine ร่วมด้วย ในผู้ป่วยที่ให้ยา anticholinergic เพื่อรักษา myasthenia gravis
โดยอาการทางคิลนิกอาจแยกทั้งสองจากกันโดย MG crisis จะเด่นไปทางด้าน neuromuscular respiratory failure และอัตราการเกิดจะเพิ่มมากขึ้นตามอายุส่วน cholinergic crisis มักจะมี abdominal cramps, excessive secretions, sweating, bradycardia แต่ในความเป็นจริงมักแยกจากกันได้ยาก
ส่วน test ที่ใช้แยกคือ Tensilon test โดยการฉีด atropine ก่อนแล้วตามด้วย edrophomium IV ถ้าผู้ป่วยเป็น MG crisis อาการจะดีขึ้นทันที แต่ถ้าเป็น cholinergic crisis อาการจะเลวลงเล็กน้อย แต่การทดสอบดังกล่าวต้องมีการเตรียมการช่วยหายใจไว้ให้พร้อมในกรณีที่มีความรุนแรง ส่วนคนที่มีอาการมากและไม่สามารถให้ความร่วมมือในการตรวจได้ การทำ Test นี้ อาจไม่ได้ประโยชน์เพราะไม่สามารถบอกความแตกต่างก่อนและหลังฉีดได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น