เบื้องต้นควรประเมินผู้ป่วยว่ามีระดับความดันโลหิตอยู่ในระดับใด มีความจำเป็นต้องรักษาเร่งด่วนเพียงใด และพิจารณาว่าการผ่าตัดนั้นเป็น elective หรือ urgency หรือ emergency
Hypertensive emergency: systolic blood pressure มากกว่าหรือเท่ากับ 220 mm Hg หรือ diastolic pressure มากกว่าหรือเท่ากับ 125 mm Hg [บางแนวทางใช้ DBP 120 mm Hg ]
ในบางสภาวะการลดความดันโลหิตอาจต้องกระทำอย่างเร่งด่วนเช่นภายใน 1 ชม. แต่การทำดังกล่าวก็อาจส่งผลทำให้เกิดผลแทรกซ้อน เช่น เลือดไปเลี้ยงสมองลดลง และ cerebral infarction หรือทำอันตรายต่อกล้ามเนื้อหัวใจและไต ซึ่งต้องการดูแลอย่างระมัดระวัง ถ้า diastolic blood pressure > 110 mmHg แสดงว่า ควบคุมความดันได้ไม่ดี ถือเป็น contraindication ควรเลื่อนการผ่าตัดออกไปก่อน และในขณะผ่าตัดมีแนวโน้มที่ blood pressure จะสูงขึ้นได้อีกถึง 25% ส่วนใน systolic นั้นในกรณีที่สูงกว่า 220 mmHg นั้นจะทำให้ผู้ป่วยมีโอกาสเกิด strokeได้มากเมื่อได้รับการกระตุ้นระหว่างการผ่าตัด แต่ถ้ามีความเร่งด่วนไม่สามารถเลื่อนการผ่าตัดได้คงต้องการยาลดความดันโลหิต intravenous form ในช่วงก่อนและระหว่างการผ่าตัด ถ้าความดันโลหิตอยู๋ในเกณฑ์ดี แนวทางส่วนใหญ่จะให้รับประทานยาจนถึงเวลาที่ใกล้จะผ่าตัดโดยสามารถดื่มน้ำได้เล็กน้อยในช่วงที่ NPO
ในบางสภาวะการลดความดันโลหิตอาจต้องกระทำอย่างเร่งด่วนเช่นภายใน 1 ชม. แต่การทำดังกล่าวก็อาจส่งผลทำให้เกิดผลแทรกซ้อน เช่น เลือดไปเลี้ยงสมองลดลง และ cerebral infarction หรือทำอันตรายต่อกล้ามเนื้อหัวใจและไต ซึ่งต้องการดูแลอย่างระมัดระวัง ถ้า diastolic blood pressure > 110 mmHg แสดงว่า ควบคุมความดันได้ไม่ดี ถือเป็น contraindication ควรเลื่อนการผ่าตัดออกไปก่อน และในขณะผ่าตัดมีแนวโน้มที่ blood pressure จะสูงขึ้นได้อีกถึง 25% ส่วนใน systolic นั้นในกรณีที่สูงกว่า 220 mmHg นั้นจะทำให้ผู้ป่วยมีโอกาสเกิด strokeได้มากเมื่อได้รับการกระตุ้นระหว่างการผ่าตัด แต่ถ้ามีความเร่งด่วนไม่สามารถเลื่อนการผ่าตัดได้คงต้องการยาลดความดันโลหิต intravenous form ในช่วงก่อนและระหว่างการผ่าตัด ถ้าความดันโลหิตอยู๋ในเกณฑ์ดี แนวทางส่วนใหญ่จะให้รับประทานยาจนถึงเวลาที่ใกล้จะผ่าตัดโดยสามารถดื่มน้ำได้เล็กน้อยในช่วงที่ NPO
มีรายละเอียดค่อนข้างครบถ้วนติดตามอ่านเพิ่ม http://images.google.co.th/imgres?imgurl=http://www.geocities.com/basicsurgery/cardio_files/image007.gif&imgrefurl=http://www.geocities.com/basicsurgery/cardio.htm&usg=__3fXUsrx1lJHDgRMc-EnE5kkt55k=&h=433&w=434&sz=27&hl=th&start=1&um=1&tbnid=-AeEFUrQ1FTjlM:&tbnh=126&tbnw=126&prev=/images%3Fq%3Dhypertensive%2Bpreopwrative%26hl%3Dth%26lr%3D%26rlz%3D1R2ITVA_enTH348%26sa%3DN%26um%3D1
ขอบคุณสำหรับความเห็นครับ ที่ถามเรื่อง Nifedipine oral form
ลองค้นดูพอสรุปได้ดังนี้ครับ
ใน JNC 7 ไม่ได้แนะนำให้ใช้ short-acting nifedipine เพื่อรักษา hypertensive crisis แต่ extended-release เองก็ไม่เหมาะ ทีจะใช้รักษา hypertensive crisis เพราะ peak response จะช้า แต่อาจจะเหมาะในกรณีที่ได้รับการรักษา hypertensive crisis ด้วยยาที่เหมาะสมแล้ว สามารถควบคุมได้ดีพอสมควรแล้ว [ซึ่งยาส่วนใหญ่แนะนำเป็น IV form ในช่วงแรก ] ส่วนใน hypertension urgency น่าจะยังพอมีเวลาโดยแนวทางส่วนใหญ่สามารถให้เวลาในการลด BP เพื่อให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมได้ถึง 24 ชม. และสามารถให้ยาที่เป็น oral form ได้ ดังนั้นจึงคิดว่า nifedipine extended-release ก็น่าจะใช้ได้ เพราะ peak concentration หรือ peak response จะอยู่ประมาณ 6 ชม.[ส่วน nifedipine rapid acting เดิมจะอยู่ที่น้อยกว่า 30 นาที]
continue enaril in evening
ตอบลบtomorrow eat enaril at morning
before OR if BP > 180/100 give iv nicardipine intra op
จาก ภาวะ Bp 180/110 ถือว่าเป็นภาวะ hypertensive urgency จำเป็นต้องมีการประเมินว่ามีภาวะend organ damage หรือไม่ค่ะ ถ้ามีซึ่งถือว่าเป็น hypertensive emergencyค่ะ ซึ่งจำเป็นต้องมีการใช้ antihypertensive ในรูป IV form
ตอบลบถ้าความดันไม่สูงมากจะพิจารณาให้ enalapril ก่อนเข้า OR
ในรายนี้ถ้าประเมินว่าไม่มี ภาวะ end organ damage จะให้ nifedipine oral form and then observe BP ต่อค่ะ
nifedipine oral form นี่ เค๊ายังใช้ลด BP ใน HT urgency อีกเหรอ งงง่ะ
ตอบลบใน JNC 7 ไม่ได้แนะนำให้ใช้ short-acting nifedipine เพื่อรักษา hypertensive crisis แต่ extended-release เองก็ไม่เหมาะ ทีจะใช้รักษา hypertensive crisis เพราะ peak response จะช้า แต่อาจจะเหมาะในกรณีที่ได้รับการรักษา hypertensive crisis ด้วยยาที่เหมาะสมแล้ว สามารถควบคุมได้ดีพอสมควรแล้ว [ซึ่งยาส่วนใหญ่แนะนำเป็น IV form ในช่วงแรก ] ส่วนใน hypertension urgency น่าจะยังพอมีเวลาซึ่งแนวทางส่วนใหญ่สามารถให้เวลาในการลด BP เพื่อให้ได้ระดับที่เหมาะสมได้ถึง 24 ชม. และสามารถให้ยาที่เป็น oral form ได้ ดังนั้นคิดว่า nifedipine extended-release ก็น่าจะใช้ได้ เพราะ peak concentration หรือ peak response จะอยู่ประมาณ 6 ชม.[ส่วน nifedipine rapid acting เดิมจะอยู่ที่ < 30 นาที ]ส่วนในแผนภาพด้าบนใช้คำว่า LA น่าจะมาจาก long acting
ตอบลบที่มา
-http://www.medscape.com/druginfo/monograph?cid=med&drugid=8681&drugname=Nifedipine+Oral&monotype=monograph
-http://74.125.153.132/search?q=cache:X3HTo9ejW1UJ:www.accessmylibrary.com/coms2/summary_0286-28181489_ITM+nifedipine+oral+hypertensive+urgency&cd=21&hl=th&ct=clnk&gl=th
http://books.google.co.th/books?id=KWu3_J1vadIC&pg=PA522&lpg=PA522&dq=nifedipine+sustained+onset+action+hour&source=bl&ots=8TVlp9PixC&sig=yzM-rb9fSpxsFZAVlp7i86uWI7c&hl=th&ei=PjLnSuCuLpjm6gOwxrT4BQ&sa=X&oi=book_result&ct=result&resnum=8&ved=0CDkQ6AEwBzge