ขอขอบคุณทุกความเห็นนะครับ ที่เห็นอกเห็นใจผู้ชายด้วยกัน ซึ่งเป็นปัญหาที่เจอบ่อยแต่ผู้ชายไทยไม่ค่อยกล้าปรึกษา รวมทั้งมีผลต่อชีวิตครอบครัวค่อนข้างสูงเลยครับ
ในเรื่อง Erectile dysfunction ประวัติโรคประจำตัว ประวัติส่วนตัว รวมทั้งการถามถึง morning erection และการทำงานของระบบ ANS ต่าง ๆในร่างกาย รวมถึงประวัติการใช้ยาเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยวินิจฉัย ต่อมาจึงตรวจร่างกายและบางครั้งต้องอาศัยการตรวจทางห้องปฎิบัติการมาช่วย [ จะพบว่าผู้ป่วยรายนี้มีโรคประจำตัวและยาที่ใช้เป็นปัจจัยทีมีผลต่อการเกิด Erectile dysfunction] มีแนวทางดี ๆ เลือกมาให้ติดตามอ่าน อันแรกเป็นของ NEJM เขียนได้ครอบคลุม มีตารางและรูปภาพให้ดูเข้าใจง่าย อันที่สองเป็นการ Erectile Dysfunction in Diabetes ซึ่งตรงกับผู้ป่วยรายนี้
ไม่เคยมีใครมา consult แบบนี้ ส่วนใหญ่คงทำใจได้มั้ง
ตอบลบคงต้องดูว่ามี morning erection หรือเปล่า ถ้ามีอาจจะต้องรักษา ภรรยาแทน อิอิ
ถ้าไม่มีก็คง Viagra แล้วละ (เวลา chest pain อย่าลืมให้คว้ากระป๋องยาไปให้หมอดูด้วยละ)
ED : case นี้ สาเหตุ คงเป็นจาก atherosclerosis(macrovascular complication) จาก DM ที่ poor control
ตอบลบคง ต้อง treat DM ก่อน
ตาม guide line สมัยนี้ที่ไปฟังๆมา เค๊าแนะนำว่าถ้าให้ oral hypoglycemic drug เต็มที่แล้ว HbA1C ยังมากกว่า 8.5 เค๊าแนะนำให้ Biphasic insulin คู่กับ MFM และให้ off SU หรือ ลด dose ก็ได้
โดย เป้าหมาย เอา HbA1C < 7.0 อาจารย์ บางคนก็เอา 6.5
ส่วน lipid นี่ ก็ ต้อง
1. treat LDL < 100 ,แต่ แต่caseนี้เอา < 70 เพราะ hign risk จาก ischemic heart ด้วย
2. ถ็า TG>200 ให้ treat non HDL chol( คำนวนจาก Chol-HDL) เอา goal ที่ < 100( LDL goal + 30)
3.เมื่อ 2 ข้อแรกได้ เป้า ให้ treat TG เอา < 150 โดยใช้ Fenofibrate เช่น supralip, bezafibrate ( ไม่ควรใช้gemfibrozil จะเกิดปัญหา Rhabdo ถ้าใช้คู่กับ statin )
4.บางคนแนะนำให้ raise HDL > 40 โดยใช้ Niacin แต่ระวังcompliance
treat HT
เอา goal < 130/80 หรือ < 120/75( ถ้า proteinuria > 1gm/day)
เลือก ACEI หรือ ARB เป็นตัวแรกเพื่อลด progression ของ proteinuria
ตาม NICE 2006 guideline แนะนำ (A+C+D)ตามลำดับ
A= ACEI or ARB
C= calcium blocker
D= diuretic
ส่วน beta blocker และ alpha blocker ใช้เป็นตัวถัดไป
แต่ case นี้ไม่แนะนำ atenolol เพราะ non selective และมี side effect impotence ด้วย
ASA
พิจารณาให้ใน DM ที่ อายุ> 50 ,55 (ในชาย และ หญิง )
บางเล่ม(ADA) เอา 40 แต่อาจารย์ ชัยชาญ บอกว่าอาจไม่คุ้มเรื่อง bleeding
แต่ยา sidenafil case นี้ห้ามให้ เพราะมี Nitrate
ถ้าอยากใช้ คงต้อง off และ ให้ ไปทำ CABG หรือ PCI มาก่อน
แต่เราว่านะ ถ้ามันยุ่งยากเราว่า ให้ไปฝิกอ่านธรรมมะ ออกกำลังกาย คิดเรื่องอื่นบ้าง แต่ถ้ายังหยุด ไม่ไหวนี่ เราว่า จริง ๆ ความแข็ง ออน่ ก็ไม่สำคัญเท่าความรัก นะ อาเมน
เออแต่ case นี้เราว่าถ้าจะให้ betablocker เพื่อ control angina pain และ ลด ischemic event เราว่า น่าใช้พวก metropolol ที่เป็น selective แทนดีกว่ามั๊ยนะ
ตอบลบ